top of page
เคสไอแพดโปร
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนSheep Admin

ซื้อ iPad Pro 2018 ยังไงให้ดีต่อใจที่สุด Part - 1

อัปเดตเมื่อ 2 ม.ค. 2562


**AppleSheep ไม่ได้รับค่าโฆษณาใดๆทั้งสิ้นจากบริษัทที่ถูกกล่าวถึงในบทความนี้**


iPad Pro 2018 ตัวใหม่ออกแล้ว !!! สวยมากก อยากได้มากกกกก

เงินพร้อม บัตรพร้อม แต่กำลังมีคำถามพวกนี้อยู่….

iPad Pro 2018 มีรุ่นอะไรบ้าง ขนาดกี่นิ้ว ความจุเท่าไหร่ ?

ซื้อที่ไหนดี?


ควรซื้ออุปกรณ์เสริมพวก ApplePencil / Keyboard มั้ย?

ควรซื้อเงินสดหรือบัตรเครดิต? มีโปรอะไรบ้าง?

ผ่อนได้มั้ย? สูงสุดได้กี่เดือน?


ก่อนอื่นเลยขอเกรินก่อนว่า แม้ตอนเปิดตัว iPad Pro 2018 ทาง Apple จะกำหนดราคามาในแต่ละรุ่นอย่างเป๊ะๆแล้ว ทาง Authorized Reseller หรือ Dealer ต่างๆในไทยก็จะออกโปรโมชั่นเพื่อจูงใจให้คุณไปซื้อสินค้าที่ร้านของเขาแตกต่างกัน ฉะนั้นการเดินดุ่มๆไปซื้อเลยที่ร้านๆหนึ่งโดยไม่ศึกษาก่อน คุณอาจจะเสียค่าไอแพดโปรและอุปกรณ์เสริมมากกว่าซื้ออีกร้านก็เป็นได้


วันนี้ทีมงาน AppleSheep เลยได้สรุปข้อมูลราคาและโปรโมชั่นให้ชาว Sheep ทุกคนได้ดูและเข้าใจง่ายๆ โดยรับประกันว่าหลังจากอ่านเสร็จ คุณจะสามารถถอย iPad Pro 2018 ตัวใหม่ได้อย่างสบายใจและกระเป๋าตังแน่นอน




จะเห็นได้ว่าราคาเริ่มต้นที่อยู่ที่ 28,900 บาท ในรุ่น iPad Pro 11” 2018 Wifi ความจุ 64GB

และไปสูงสุดที่ 66,900 บาท ในรุ่น iPad Pro 12.9” 2018 Wifi+Cellular ความจุ 256GB

นี่ขนาดยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมนะ ซึ่งอาจทำให้บวกอีกหลายพันเลยทีเดียว


AppleSheep Advice


ควรซื้อ iPad Pro 2018 รุ่นอะไร ขนาดกี่นิ้ว ความจุเท่าไหร่ ?

แนะนำการเลือก รุ่น ขนาด ความจุ ให้ทุกท่านได้ตัดสินใจซื้อ iPad Pro 2018 ได้ง่ายๆ ตรงกับการใช้งาน และคุ้มค่าที่สุด


รุ่น


Wifi

เหมาะกับคนที่ใช้งานที่บ้าน / มหาวิยาลัย / ที่ทำงาน / ร้านกาแฟ ที่มีสัญญาน Wifi ให้ใช้อยู่แล้วและไม่ค่อยใช้ระหว่างการเดินทางเท่าไหร่ เพราะอย่าลืมว่าเราสามารถแชร์เน็ตจากมือถือเราได้นะครับ ฉะนั้นหากฉุกเฉินหรือต้องอัพเดทงานกระทันหัน ก็ไม่ต้องกังวลไปครับซึ่ง Spec นี้ AppleSheep มองว่า iPad Pro 2018 รุ่น Wifi เหมาะกับ นักเรียน/นักศึกษา พนักงานออฟฟิส(ที่ไม่โดนจำกัดสิทธิการใช้เน็ตบริษัทนะ 555) สถาปนิก และหมอ/พยาบาล ในสถานพยาบาลที่มีสัญญาเน็ตดีๆ


Wifi+Cellular

เหมาะกับคนที่เดินทางบ่อย ชอบใช้ระหว่างการเดินทาง หรือสถานที่ทำงานใช้งานอยู่ตาม Site ข้างนอก รวมถึงพนักงานออฟฟิสที่โดนจำกัดการใช้สิทธิเน็ตจากบริษัท ทำให้ไม่มีสัญญาน Wifi ให้ใช้และต้องใช้ระบบ Cellular จากเครือข่ายมือถือต่างๆซึ่ง Spec นี้ AppleSheep มองว่า iPad Pro 2018 รุ่น Wifi+Cellular เหมาะกับวิศวกร ช่าง ที่อยู่ตาม site งาน เหล่า Sales/AE ที่ต้องไปนอกสถานที่พบลูกค้าบ่อยๆ และหมอ/พยาบาลที่อาจจะอยู่ประจำสถานพยาบาลที่สัญญาน Wifi ยังไม่ครอบคลุม


ขนาดหน้าจอ

iPad Pro 11 นิ้ว

สายพกพา เน้นความสะดวกกระทัดรัด ชอบใช้งานระหว่างเดินทาง อยากได้ไว้ เล่น FB ดู Netflix เล่น Ragnarok/PUB G/Fornite ทีมงาน AppleSheep ขอแนะนำให้ซื้อขนาด 11 นิ้วเลยครับ รวมถึงใครที่มีคอมหรือ Notebook อยู่แล้วและอยากได้ iPad Pro 2018 ไว้เป็นอุปกรณ์ใช้งานเสริมและไม่ต้องใช้ทำงานหนักๆระหว่างเดินทางยิ่งโดยเฉพาะการใช้งานที่ต้องใช้มือถือ iPad Pro ยิ่งคุณผู้หญิงที่มือเล็กๆ ไม่อยากถืออะไรหนักๆยิ่งแนะนำให้ซื้อ iPad Pro 11 นิ้วเลยครับใครที่เคยเป็นเจ้าของ iPad Pro 10.5 นิ้ว แล้วรู้สึกว่าขนาดนี้มันใช่ มันโดน ต้องจัดรุ่น 11 นิ้วครับ เพราะขอบอกว่าขนาดมันเท่ากัน แถมบางลงและจอขยายใหญ่เกือบเต็มจอ!


iPad Pro 12.9 นิ้ว

สายวาดรูปออกแบบจริงจัง สายบ้าพลัง สาย Power User สายจอใหญ่ ทั้งหลาย ทีมงาน AppleSheep ขอแนะนำให้จัด iPad Pro 12.9 นิ้วเลยครับ แม้ขนาดจะขึ้นชื่อว่า 12.9 นิ้วแต่ขอบอกเลยว่า iPad Pro 12.9 Gen 3 นี้มีขนาดเล็กกว่า Gen 2 อย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าได้จอใหญ่เท่าเดิม แต่เครื่องเล็กลง บางลง มันช่างยั่วยวนให้คนใช้ 10.5 หรือ คิดจะซื้อ 11 นิ้ว ก้าวมาเข้าครอบครัว Go Big or Go Home จริงๆ ด้วยขนาดจอที่ใหญ่นี้บอกเลยครับ ว่าจะวาดรูป จะตัดต่อ vdo หรือจะดูหนัง จะทำไรก็ใหญ่สะใจ เจ้า iPad Pro 12.9” Gen 3 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต่องานที่ต้องใช้พื้นที่หน้าจอเยอะๆแน่นอน


ความจุ


64 GB

ใครจะใช้ iPad Pro 2018 เพื่อเล่น Facebook / IG / Twitter เท่ๆชิคๆ หรือจะดู Youtube / Netflix ชิลๆ ไม่เน้นทำงานอะไรหนักๆ ขอแค่ทำงานเล็กๆน้อยๆผ่าน Email ผ่าน Google Drive / One Drive บอกเลยครับว่าขนาด 64 GB เหมาะสมกับท่านอย่างยิ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียเงินกับความจุมากๆให้เสียดายที่หลัง


256 GB *

ความจุที่ 256 GB นั้นทีมงาน AppleSheep แนะนำให้เป็นขนาดที่เป็นเหมาะสมกับการใช้งานเจ้า iPad Pro 2018 สุดไฮเทคที่สุดเลยครับ เป็นจุดกึ่งกลางที่ไม่ว่าจะเป็น Casual User หรือ Pro User ก็สามารถใช้ได้ดีขนาด 256 GB นี้ยังเหมาะสำหรับท่านที่มีไฟล์รูปต้องเก็บเยอะขึ้นหน่อย ต้องตัดรูปหรือไฟล์ VDO ใน iPad Pro 2018 บ้าง แนะนำให้ใช้ขนาดความจุ 256 GB เลยครับ แม้ว่าจะมี icloud หรือ google photos /drive ไว้ให้เก็บไฟล์ แต่การตัดต่อจะต้องใช้ไฟล์ที่อยู่ในเครื่องเลย รวมถึงบางที่ก็ต้องทำงาน offline ฉะนั้นแม้จะแพงกว่ารุ่น 64 GB 5,000 บาทแต่ก็คุ้มค่าอย่างยิ่งครับ อย่าให้อาการ ความจุมากวนใจท่านเลยครับ จัด 256 GB ไปเลย


512 GB

ขนาดนี้บอกเลยว่าอาจจะเยอะเกินไปสำหรับ Casual User ทั่วไปๆด้วยราคาที่แพงกว่าขนาด 256 GB ถึง 7,000 บาทเรียกได้ว่าหากจะเอามาไว้เฉยๆไม่ได้ใช่งาน เอาส่วนเหลือไปซื้อ Apple Pencil 2 หรือ Smart Key Board Folio ดีกว่า( ดูรายละเอียดราคาได้ในหัวข้อด้านท้ายสุด) แต่หากเป็น Power User สายใช้งาน iPad Pro 2018 หนักๆ ต้องตัดต่อไฟล์รูป ไฟล์ VDO เยอะๆ แถมต้องเก็บไฟล์งานไว้ในเครื่องจำนวนมาก ขอแนะนำให้ซื้อ iPad Pro 2018 ความจุ 512 GB เลยครับ สามารถใช้ได้ยาวๆ และยิ่งใช้กับการเก็บไฟล์ในระบบ Cloud แล้ว เรียกได้ว่าเหลือๆสบายใจได้ครับ


1TB

ขนาดนี้เหมาะกับ Super Power User เท่านั้นครับ ด้วยขนาดความจุขนาดนี้ใน iPad Pro 2018 บอกเลยว่าหากไม่ได้ใช้งานหนักๆ ตัดต่อไฟล์รูป Vdo และเก็บไฟล์เยอะจริงๆ ใช้ยังไงก็ไม่หมด บางคนยังมี Macbook Pro ความจุยังไม่เยอะขนาดนี้เลยครับแต่ถ้าคิดว่าใช้งานหนักจริงๆ คุ้มค่าจริงๆ ด้วยราคาที่แพงกว่ารุ่น 512GB ถึง 14,000 บาท ก็จัดไปได้เลยครับ แถมคนที่ซื้อขนาด 1TB ทาง Apple ได้จัด ram เพิ่มให้จาก 4GB เป็น 6GB เลย บอกได้เลยว่า Go Big or Go Home ของจริงครับ


หวังว่าส่วน AppleSheep Advice นี้จะช่วยทุกท่านตัดสินใจเลือกแต่ละขนาดได้เหมาะสมกับ Lifestyle ตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และหากมีคำถามเพิ่มเติม สามรถปรึกษาทีมงาน AppleSheep ได้ตลอดครับ เพราะนอกจากเราจะออกแบบและจำหน่าย Case iPad Pro / iPad รุ่นต่างๆแล้วเรายังเป็นผู้เชียวชาญและ Pro User สำหรับ iPad Pro / iPad อีกด้วยครับ




ดู 23,805 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page